ละครเรื่อง มาลีเริงระบำ ทางช่อง 3
- ชื่อละครเรื่อง : มาลีเริงระบำ
- ช่องที่ละครออกอากาศ : ช่อง 3
- ละครออกอากาศทุกวัน : พุธ-พฤหัสบดี

- เรื่องย่อละคร มาลีเริงระบำ บทรจนาละคร/บทละครโทรทัศน์ นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์
- เรื่องย่อละคร มาลีเริงระบำ กำกับการแสดงละคร สำรวย รักชาติ
- เรื่องย่อละคร มาลีเริงระบำ ผู้จัดละคร วรายุฑ มิลินทจินดา
- เรื่องย่อละคร มาลีเริงระบำ ละครออกอากาศทุกวัน พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 นาฬิกา ทางไทยทีวีสีช่อง 3 บุกเบิก 2 ตุลาคม 2557
อ่านเรื่องย่อละคร มาลีเริงระบำ
เอ๊ะๆ !!! เสียงทำนองเพลงดังมาจากห้องน้ำหลังบ้านไม้ในหมู่บ้านชนบท ห้องน้ำคือเวที ฝักบัวคือไมโครโฟน กระจกอยู่ตรงหน้า “หนูมาลี” เพราะมีชื่อจริงพ่อตั้งให้ว่า ด.ญ.มาลีเริงร่า อากาศดี เธอเป็นเด็กสาวหน้าตาผิวพรรณสวยราวกับภาพวาด อยู่ในห้องน้ำวันละหลายชั่วโมง ปางเพื่อร้องเพลงพร้อมกับเต้นรำเลียนแบบศิลปินดังที่อยู่ในทีวี

ซึ่งหนูมาลี นั้นเป็นสาวนอกเหนือจากหมู่บ้านเล็ก ๆ หนูมาลีเติบโตมาด้วยน้ำมือปู่คนเก่งชอบช่วยเหเล่าลือแต่เป็นอัลไซเมอร์ชื่อ “ปู่เชื้อ”พร้อมด้วยย่าหูตึงใจดีแต่มักทำผิดก็เพราะว่าฟังไม่ได้ยินชื่อ “ย่าหงส์”มาลีเติบโตอย่างไม่มีพ่อแม่ จึงใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับทีวีกับวิทยุแทบทั้งวัน
โดยที่หนูมาลี นั้นมีความฝันว่าตนจะได้มีโอกาสเข้าร่วมประกวดร้องเพลงแล้วชนะเลิศ โด่งดังเป็นดาวในเมืองหลวงกับรายการทีวีสักรายการหนึ่งนั่นคือฝันที่หนึ่ง ฝันที่สองของหนูมาลีคือการได้พบพ่อบังเกิดเกล้า “เรืองยศ” หรือ พ่อเรือง ที่เข้าไปทำงานในกรุงเทพ ทุกๆเดือนหนูมาลีจะไปที่ไปรษณีย์เพื่อรับเงินที่พ่อเรืองส่งมาให้
ด้วยกันภาพจำสุดชายของหนูมาลี คือขณะตอนสามขวบ พ่อเรืองในชุดทหารเกณฑ์ เอาข้าวของมากมายมาเยี่ยมปู่ย่า และเข้ามากอดหนูมาลีอย่างรักใคร่ หลังจากนั้นพ่อก็ได้แต่ส่งเงินด้วยกันจดหมายมา ทุก ๆ วันสงกรานต์ ปู่ ย่า กับหนูมาลี จะไปรอที่ปากทางหมู่บ้านแต่ว่าพ่อเรืองก็ไม่มา ปู่บ่งบอกว่า พ่อเป็นทหารที่เก่งมาก ป่านนี้คงเป็นเจ้าคนนายคน จึงส่งเงินและจดหมายที่มีแต่ความห่วงใยกลับมาบ้านได้สม่ำเสมอ ปู่กับย่าภูมิใจในตัวพ่อเรืองมาก เพื่อหนูมาลี พ่อเรืองคือฤทัย คือจุดหมาย คือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เพราะว่าไม่จำเป็นต้องมีแม่ !

พร้อมด้วยปู่ยังเจนเล่าให้ฟังอีกว่า พ่อเรืองกับแม่เป็นเพื่อนนักเรียนกัน ทั้งสองแอบได้เสียกันตอนงานลอยกระทง แม่ของหนูมาลีเกิดท้อง ด้วยความที่แม่ของหนูมาลีใฝ่แสงสีในเมืองหลวง ภายหลังคลอดลูกก็ทิ้งลูกไว้แล้วหนีเข้ากรุงเทพ ซึ่งพ่อเรืองคนนี้เองที่ไปตระเวนหาลูก ถึงกับต้องขโมยเด็กขึ้นรถสองแถวหนีเคลื่อนสังคมสงเคราะห์ เรื่องยศพาหนูมาลีกลับบ้านมาให้พ่อกับแม่เลี้ยง แล้วดิ้นรนไปหางานทำในเมืองหลวงเพื่อส่งเสียให้หนูมาลีได้เรียนสูงๆ ให้พ่อกับแม่ได้มีเงินรักษาตัวยามเจ็บไข้
ซึ่งพ่อเรืองยังพูดคุยกับหนูมาลีทางรายงานปีละครั้ง แต่หนูมาลีส่งจดหมายถึงพ่อเสมอทุกเดือน สิ่งเดียวที่หนูมาลีไม่เข้าใจคือ ทำยังไงพ่อเรืองก็ไม่ยอมให้หนูมาลีออกจากหมู่บ้านไปหาพ่อที่กรุงเทพ ทุกครั้งที่หนูมาลีส่งจดหมายก็ได้แต่ส่งเข้าตู้ไปรษณีย์เลขที่ 14 ไปรษณีย์รัชดา โดยไม่บ่งบอกที่อยู่ใดๆ

พร้อมกับครั้นเมื่อหนูมาลีเรียนจบม.6 ทำให้หนูมาลีปลงใจแน่วแน่ จะเข้ากรุงเทพไปหาพ่อ หนูมาลีตั้งใจจะไปประกวดร้องเพลงในรายการโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียงดังที่สุดในประเทศด้านการหาซุปเปอร์สตาร์ สุดท้ายจึงตัดสินใจเดินทางมาที่กรุงเทพฯ หนูมาลีจะไปดักรอพ่อที่หน้าไปรษณีย์ ยังไงเสียพ่อต้องมาไขตู้เอาจดหมายที่ตนส่งมาทุกเดือน
หลังจากที่ผ่านการเที่ยวไปที่น่าเวียนหัว เข้ากรุงเทพครั้งแรก เมืองฟ้าอมรตรงหน้าเนืองแน่น ซับซ้อนจนยากที่จะเข้าใจ ทันทีที่ลงจาก บขส. หนูมาลีกอดกระเป๋าแน่น พอดีพบเข้ากับอธิ นายตำรวจที่กำลังดักจับ คนส่งยาเสพติด อธิเข้าใจผิด คิดว่ามาลีเป็นคนร้าย จึงไล่จับ มาลีวิ่งหนี จนทองทา เพื่อนของอธิต้องช่วยจับตัวไว้ มาลีต่อสู้ ใช้สนับมือฟันไปที่เค้าหน้าอกของทองทาจนเป็นรอยแผลเป็น
พร้อมทั้งสุดท้ายทองทา อธิ พร้อมด้วยมาลีจึงไปสถานีตำรวจด้วยกัน จึงรู้ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด อธิต้องไปจับคนร้ายต่อ ทิ้งให้ทองทาอยู่กับมาลี มาลีไปเฝ้ารอพ่อที่ไปรษณีย์ แต่ด้วยความเป็นห่วง เพราะมืดค่ำ ทำให้ทองทาต้องพามาลีไปพักที่บ้านชั่วคราว แล้วจึงช่วยหนูมาลี ตามหาพ่อถัดจากนั้น

ด้วยท่าทางที่เรียบร้อยสะอาดอ้านของทองทา ที่หยิบจับทำอะไรก็ดูดีงดงามไปหมด ทำให้หนูมาลีอดคิดไม่ได้ว่าทั้งสองเป็นพวกรักร่วมเพศ หนูมาลียังพบใบสมัครร้องเพลง ในกระเป๋าของทองทา หนูมาลีรู้สึกสนิทสนมกับทองทาทันที หนูมาลีถามว่าทองทาจักสมัครการแสดงอะไร ทองทาพูดว่าเขาเป็นแดนเซอร์ เขารักการเต้นเป็นชีวิตจิตใจ หนูมาลีปักใจเชื่อว่า ทองทาเป็นเกย์ เป็นนักล่าฝันจากบ้านนอกเหมือนกันกับตน ก็เพราะว่าทองทาพูดภาษาไทยบางคำแปลกๆ พร้อมกับมีทีท่าเป๋อๆเปิ่นๆเหมือนกันกับตนในเมืองหลวงแห่งนี้
ซึ่งเพราะว่าที่หนูมาลีหารู้ไม่ ทองทาไม่ได้เป็นสาวพวกสอง เขาเป็นชายหนุ่มปรกติ ที่ชอบดูแลตัวเอง รักศิลปะ เขารักการเต้นทุกชนิดเป็นชีวิตจิตใจ ในวัยเด็กพ่อกับแม่ของเขาแยกทางกัน แม่ที่เป็นนักบัลเล่ต์หนีไปอยู่ต่างประเทศ เขาจึงทิ้งประเทศไทยไปอยู่กับแม่ ด้วยกันเรียนเต้นจนจบปริญญาเอก ทองทามีอาชีพเป็นผู้ออกแบบท่าเต้นด้วยกันการแสดงโชว์ มีผลงานมากมายในต่างประเทศ ก่อนจักเดินทางมาที่ประเทศไทยคราวไม่กี่วันนี้
พร้อมทั้งในขณะที่ทองทาจึงเป็นผู้ชายทั้งแท่งที่มาจากประเทศนอกไม่ใช่เกย์บ้านนอกอย่างที่หนูมาลีเข้าใจ ทองทารู้สึกประทับใจในความใสซื่อ เป็นแน่แท้ใจพร้อมทั้งใบหน้าที่สวยงามของหนูมาลี เขารู้สึกขำกับอาการตีความเอาเองของหนูมาลีหลายๆอย่าง ก็เลยเออออห่อหมกไปกับหนูมาลี อยู่ช่วยเหลือกระฉ่อนหนูมาลีไปเรื่อยๆ อย่างน้อยก็ได้นอนเคียงข้างสาวสวยช่างฝันที่พูดคุยสนุกทุกคืนเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะสนิทสนมกับหนูมาลีอย่างรวดเร็ว

ซึ่งทองทาก้มมองที่หน้าอกด้านซ้ายที่มีหัวใจอยู่ตรงนั้น รอยแผลจากสนับมือทำท่าจะกลายเป็นแผลเป็น เหมือนความประทับใจในตัวสาวน้อยที่ดูจะเพิ่มมากขึ้น ไม่มีทีท่าจะลดน้อยลง !
ต่อมา มาลีไปรอพ่อที่ไปรษณีย์ทุกวัน จนได้พบกับชงโค ที่มาเอาจดหมายไป เธอสะกดรอยตามไป พร้อมกับได้พบกับการะเกด การะเกดให้มาลี ตามไปดูเจ้าของจดหมายที่กำลังจักขึ้นโชว์บนเวที ดวงตาสองข้างของหนูมาลีจับจ้องอยู่บนเวทีการแสดง ไฟแสงสีปรากฎ หนูมาลีใจเต้น พ่อเรืองที่ตนรอคอยกำลังจักปรากฎตัวขึ้นตรงหน้า พร้อมทั้งแล้วชายหนุ่มผิวขาวใบหน้าสวยเฉี่ยวก็ปรากฎขึ้น รอยยิ้มฉาบเครื่องสำอางค์ บนร่างสูงสง่า ปรากฏตัวขึ้นราวกับราชินีแห่งคีตศิลป์ เสียงอันทรงพลังราวกับนักร้องมืออาชีพแทรกมากับดนตรีกระหึ่มบนเวที !!
หลังจากที่หนูมาลีก้มลงมองรูปถ่ายสีของพ่อเรืองในมือที่สั่นเทาของตน ชายหัวเกรียนในชุดทหารเกณฑ์สีเขียวอุ้มกอดหนูมาลีในวัยสามขวบอย่างรักใคร่ นี่คือวันสุดท้ายที่ได้พบหน้าพ่อเรืองทันทีที่15ปีก่อน พ่อเรืองของหนูมาลีไม่ใช่ทหาร ! แต่เป็นกระเทยแต่งหญิง เขาไม่ได้เป็นนายพันไม่ใช่หรือนายพลอย่างที่ปู่ระบุ ไม่ใช่แม้แต่เฮียเจ้าของร้านคาราโอเกะ แต่คือ “โรส”เจ้าของร้านคาราโอเกะที่สวยด้วยกันร้องเพลงก็เพราะว่ามาก นี่เองคือคำตอบ ทำไมพ่อจึงไม่มาหาปู่ย่าและแม้แต่ลูกสาวของตัวเอง เพราะพ่อมีชีวิตอีกด้านที่น่าอับอายพร้อมทั้งไม่ตะกลามให้ใครรู้
และเพราะว่าเฉพาะคนในครอบครัว !ไม่ปางแต่หนูมาลีที่ตกใจ โรสเองก็จำหนูมาลีได้ทันที ทั้งสองไม่ใช่พ่อลูกที่โผเข้าสมมุติันกอดกัน ทั้งสองนิ่งอึ้งมองหน้ากัน ไม่มีคำพูดใดๆ ! ทั้งสองไม่เชี่ยวชาญเปรยได้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกอย่างไรในเวลาเช่นนี้ ความผิดหวังในตัวผู้เป็นพ่อ ทำให้มาลีไม่เก่งเรียกเรืองยศ หรือไม่โรสว่าพ่อได้ สุดท้าย โรสจึงให้มาลีเรียกตนเองว่าพี่โรส

นั่นทำให้หนูมาลีต้องอยู่กรุงเทพฯ รองลงไป ทั้งเรื่องเรียนต่อ ด้วยกันเรื่องการเข้าประกวดร้องเพลง เธอกลายเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านของโรส โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า ทั้งสองคนเป็นพ่อลูกกัน มาลีแสดงทีท่าไม่ชอบบอย คนรักของโรสตั้งแต่แรก แต่บอยก็ไม่ถือสาอะไร มาลีพบว่า จนถึงถอดเครื่องประกอบทั้งหมดออกแล้ว โรสก็เป็นแทบผู้ชายรูปร่างหน้าตาดี มีท่าทางกระตุ้งกระติ้งมากกว่าปรกติ โรสเป็นคนปากจัด ขี้โวย เอาเป็นแน่แท้เอาจัง ดุดัน ตรงไปตรงมา
พร้อมทั้งนับแต่วันนั้น หนูมาลีทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านของพี่โรส วันๆหนูมาลีพูดกับพี่โรสไม่กี่คำ พี่โรสเองไม่ได้พูดถึงปู่ย่า ไม่ได้พูดถึงข้อความในจดหมายที่เขียนต่างว่าันมาตลอด 15 ปี พี่โรสด้วยกันหนูมาลียังคงไว้ซึ่งการเป็นนายจ้างพร้อมด้วยลูกจ้างเหมือนคนอื่นแต่มีบางสิ่งที่ไม่เหมือน
ซึ่งสิ่งนั้นคือสายตาอันห่วงใย ที่โรสจะทอดมองมาที่หนูมาลีครั้งละนานๆ ความผิดปรกติอีกอย่างหนึ่งก็คือ พี่โรสนั้นจักปากไวปากจัด บ่นด่าจิกกัดทุกคนได้ตลอดวลา24 ชั่วโมง แต่เพราะเด็กเสริฟที่ชื่อหนูมาลีแล้ว โรสไม่เคยดุด่าสักคำ

ภายหลังที่มาลีสมัครเข้าประกวดร้องเพลงพร้อมกับ ชงโค การะเกด ซึ่งเจ้าของสถานีโทรทัศน์คือเมืองแมน พ่อของทองทา ซึ่งเมืองแมนเป็นคนเจ้าชู้ เห็นแก่ผลประโยชน์ด้วยกันธุรกิจเป็นใหญ่ กับภรรยาคนล่าสุดของเขาก็คือ โยทะกา แม่ของมาลีนั่นเอง ที่สถานี มาลีได้พบกับทองทาอีกครั้ง กับเธอก็รู้ในที่สุด ว่าทองทาเป็นลูกของเมืองแมน คู่ต่อสู้คนสำคัญของมาลีก็คือ เบลล่า ลูกสาวต่างมารดาอีกคนของเมืองแมน เบลล่าสนิทสนมกับทองทา เธอเข้าประกวดเวทีนี้เช่นเดียวกัน ถึงแม้โยทะกาจะทักท้วงในตอนแรก แต่เพื่อกระแสข่าวกับเรทติ้งทางสถานี เมืองแมนจึงให้เบลล่าเข้าประกวดในที่สุด เพราะมีบุณฑริก ผู้เป็นยาย เป็นแรงสนับสนุนสำคัญของเบลล่า
เพื่อเมืองแมนที่เป็นคนเจ้าชู้ เขาได้แม่ของทองทา “ช้องนาง” เป็นภรรยาคนแรก ช้องนางที่กำลังมีอนาคตในวงการบัลเล่ต์ ยอมทิ้งฝันนักบัลเลต์ระดับโลกเพราะท้องกับเมืองแมน แต่แล้วช้องนางก็ต้องเสียใจตราบใดพบว่าเมืองแมนไม่หยุดอยู่ที่ตนเอง เมืองแมนแอบไปมีเมียน้อย เป็นสาวไฮโซจากตระกูลเก่าแก่ชื่อ “บัวบุษบง” ช้องนางจึงหย่ากับหนีไปต่างประเทศ แต่บัวบุษบงก็อยู่กับเมืองแมนได้ไม่นาน เมืองแมนแอบไปคบกับนางงามระดับประเทศคนดังชื่อ “โยทะกา”
พร้อมกับครั้งบัวบุษบงรู้เข้า บัวบุษบงก็กินยาตายทิ้งลูกสาวชื่อ “บุษบาบัณ” ไม่ใช่หรือ “เบลล่า”เอาไว้ให้แม่ของตนเลี้ยง เมืองแมนแต่งงานกับโยทะกา จากสาวเหนือบ้านนอกมาเป็นนางงาม จากนางงามมาเป็นภรรยามหาเศรษฐี จากภรรยามหาเศรษฐี โยทะกากลายเป็นผู้บริหารรายการทีวีหญิงที่มีความสมรรถ มีชื่อเสียง มีหน้ามีตาอยู่ในสังคม เป็นที่รู้จักของคนทั่วๆไป
เอ๊ะๆๆ เรื่องราวยังไม่จบแค่นี้นะ ไปอ่านต่อกันเลยที่นี่นะจ๊ะ >>> http://tvonline-nonstop.blogspot.com/
ติดตามเรื่องย่อละคร ดูทีวี ทีวีออนไลน์ ช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9 ได้ที่นี่ 24ชม.
ขอบคุณข้อมูลจาก Sanook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น